เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 702
เครื่องบินลำที่เกิดเหตุใน ค.ศ. 2011 | |
สรุปการจี้เครื่องบิน | |
---|---|
วันที่ | 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 |
สรุป | นักบินผู้ช่วยก่อเหตุจี้เครื่องบิน |
จุดเกิดเหตุ | น่านฟ้าประเทศซูดาน ลงจอดที่เจนีวา |
อากาศยานลำที่เกิดเหตุ | |
ประเภทอากาศยาน | โบอิง 767-3บีจีอีอาร์ |
ดําเนินการโดย | เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ |
หมายเลขเที่ยวบิน IATA | ET702 |
หมายเลขเที่ยวบิน ICAO | ETH702 |
รหัสเรียก | ETHIOPIAN 702 |
ทะเบียน | ET-AMF |
ต้นทาง | ท่าอากาศยานนานาชาติโบเล อาดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย |
จุดพัก | ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน โรม ประเทศอิตาลี |
ปลายทาง | ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา มิลาน ประเทศอิตาลี |
จำนวนคน | 202 |
ผู้โดยสาร | 193 |
ลูกเรือ | 9 |
เสียชีวิต | 0 |
บาดเจ็บ | 0 |
รอดชีวิต | 202 (ทั้งหมด) |
เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 702 เป็นเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศจากอาดดิสอาบาบาไปยังมิลานโดยจอดพักที่โรมซึ่งถูกจี้โดยนักบินผู้ช่วยเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014[1][2] ระหว่างบินจากอาดดิสอาบาบาไปยังโรม และลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติเจนีวา ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 202 คนปลอดภัย
เหตุการณ์
[แก้]เที่ยวบินที่ 702 มีกำหนดการออกจากท่าอากาศยานนานาชาติโบเล กรุงอาดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปียเวลา 00:30 น. ตามเวลาท้องถิ่นแอฟริกาตะวันออก (UTC+3 ช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) ของวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014[3] ขณะบินเหนือน่านฟ้าประเทศซูดาน อุปกรณ์ส่งสัญญาณ (transponder) บนเครื่องเริ่มส่งสัญญาณรหัส squawk 7500 ซึ่งเป็นรหัสสากลเตือนว่าเครื่องบินถูกจี้[4] นักบินผู้ช่วยฉวยโอกาสขณะที่กัปตันออกไปเข้าห้องน้ำและล็อกห้องนักบิน[5]
เที่ยวบินที่ 702 มีกำหนดลงจอดที่ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน กรุงโรม ประเทศอิตาลี เวลา 04:40 น. ตามเวลาท้องถิ่นยุโรปกลาง (UTC+1 ช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง) ก่อนจะเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา นครมิลาน ประเทศอิตาลี[3] อย่างไรก็ตาม นักบินผู้ช่วยผู้ก่อเหตุบังคับเครื่องไปยังนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นักบินคนดังกล่าวนำเครื่องวนหลายรอบขณะเจรจากับเจ้าหน้าที่ควบคุมจราจรทางอากาศที่ท่าอากาศยานนานาชาติเจนีวาเพื่อขอลี้ภัยทางการเมืองและขอความคุ้มครองไม่ให้ส่งตัวกลับไปประเทศเอธิโอเปีย[4][5][6][7] เที่ยวบินที่ 702 ลงจอดเมื่อเวลา 06:02 น. ตามเวลาท้องถิ่นยุโรปกลางโดยมีเชื้อเพลิงเหลือให้บินต่อได้ประมาณ 10 นาทีและเครื่องยนต์ดับหนึ่งตัว[4][5] นักบินผู้ช่วยหลบหนีออกจากเครื่องบินโดยโยนเชือกออกมาทางหน้าต่างแล้วไต่ลงมา และเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งควบคุมตัวไปทันที[5] ท่าอากาศยานถูกสั่งปิดเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ไม่มีผู้โดยสารหรือลูกเรือได้รับบาดเจ็บบนเที่ยวบินที่ 702[8]
ขณะที่เที่ยวบินที่ 702 บินเข้าน่านฟ้าประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส เครื่องบินถูกเครื่องบินรบยูโรไฟเตอร์ของกองทัพอากาศอิตาลี (น่านฟ้าประเทศอิตาลี) และเครื่องบินรบมีราฌของกองทัพอากาศฝรั่งเศส (น่านฟ้าประเทศฝรั่งเศส) บินประกบ อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้ตอบสนองเนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นนอกเวลาทำการปกติ ได้แก่ 08:00 – 12:00 น. และ 13:30 – 17:00 น. วันธรรมดา โฆษกของกองทัพอากาศสวิตเซอร์แลนด์ให้สัมภาษณ์ว่า "สวิตเซอร์แลนด์ไม่สามารถเข้าแทรกแซงได้เนื่องจากฐานทัพอากาศปิดทำการนอกเวลาราชการและวันหยุดสุดสัปดาห์ มันเป็นประเด็นเรื่องงบประมาณและเจ้าหน้าที่"[9][10] ในช่วงนอกเวลาทำการสวิตเซอร์แลนด์ขอให้กองทัพอากาศของประเทศเพื่อนบ้านดูแลน่านฟ้า โดยอนุญาตให้กองทัพอากาศฝรั่งเศสและอิตาลีบินประกบเครื่องบินต้องสงสัยได้ แต่ไม่มีอำนาจยิงเครื่องบินในน่านฟ้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์[10]
ผลสืบเนื่อง
[แก้]ผู้ก่อเหตุ
[แก้]นักบินผู้ช่วยผู้ก่อเหตุจี้เครื่องบินเที่ยวบินที่ 702 คือนายไฮเลเมดิน อาเบรา เตเกญ (Hailemedhin Abera Tegegn) อายุ 31 ปี[11]
เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ปฏิเสธคำขอจากรัฐบาลเอธิโอเปียให้ส่งตัวไฮเลเมดิน[note 1]กลับไปรับโทษในประเทศเอธิโอเปีย[5] เจ้าหน้าที่ของสวิตเซอร์แลนด์แต่เดิมกล่าวว่าไฮเลเมดินจะต้องเข้ารับการพิจารณาคดีในประเทศสวิตเซอร์แลนด์[5] ไฮเลเมดินถูกควบคุมตัวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในระหว่างรอพิจารณาคดี อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2015 คณะผู้พิพากษาในสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินให้ไฮเลเมดินไม่ต้องรับโทษหลังจากที่คณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณา "ลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า [ไฮเลเมดิน] อยู่ในสภาวะหวาดระแวง" ระหว่างก่อเหตุและไม่สามารถคิดไตร่ตรองอย่างมีเหตุผลได้[12] ไฮเลเมดินถูกนำส่งไปยังศาลกลางของสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งตัดสินให้เข้ารับการบำบัดทางจิตเวช[12]
เดือนมีนาคม ค.ศ. 2015 ศาลสูงสุดของเอธิโอเปียพิจารณาคดีลับหลัง (in absentia) ตัดสินให้จำคุกไฮเลเมดิน 19 ปี 6 เดือน[13]
กองทัพอากาศสวิตเซอร์แลนด์
[แก้]เหตุการณ์นี้เผยให้เห็นจุดอ่อนด้านการป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพอากาศสวิตเซอร์แลนด์ และทำให้กองทัพอากาศสวิตเซอร์แลนด์เตรียมพร้อมป้องกันให้รัดกุมตลอดเวลา โดยตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 2016 กองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบินเอฟ/เอ-18 ฮอร์เนตให้พร้อมปฏิบัติการภายใน 15 นาทีระหว่างเวลา 08:00 – 18:00 น. วันธรรมดา ก่อนจะขยายเป็นทุกวันตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2017[14] ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2020 กองทัพอากาศสวิตเซอร์แลนต์เตรียมเครื่องบินให้พร้อมตลอดเวลาสำหรับบินประกบภายใน 15 นาที[15][16][17][18]
ดูเพิ่ม
[แก้]- เอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 961 – เหตุการณ์จี้เครื่องบินโบอิง 767 ของเอธิโอเปียนแอร์ไลน์อีกเหตุการณ์หนึ่ง
หมายเหตุ
[แก้]- ↑ ชื่อบุคคลชาวเอธิโอเปียและเอริเทรียจะใช้ชื่อบิดาต่อท้ายชื่อตัว (แทนชื่อสกุล) และนิยมระบุตัวบุคคลด้วยชื่อตัว ในกรณีนี้ชื่อตัวคือไฮเลเมดิน และชื่อบิดาคืออาเบรา เตเกญ
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Swiss confirm Ethiopian plane hijack". 17 กุมภาพันธ์ 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 February 2014. สืบค้นเมื่อ 17 February 2014.
- ↑ Lynch, Dennis. "VIDEO: Inside The Plane That Was Hijacked By Its Own Co-Pilot". Business Insider. สืบค้นเมื่อ 19 February 2014.
- ↑ 3.0 3.1 "Ethiopian Airlines flight ET-702 of 17 February 2014". 17 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 21 February 2014. สืบค้นเมื่อ 17 February 2014.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 "Hijacked Ethiopian plane probably flown to Switzerland for asylum". Focus Information Agency. 17 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-22. สืบค้นเมื่อ 17 February 2014.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 5.4 5.5 "Ethiopian Airline pilot gets 19 years for hijacking plane". Agence France-Presse. 20 March 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-12-18. สืบค้นเมื่อ 2021-12-31.
- ↑ "Ethiopian Airlines hijack: Co-pilot took control of plane". BBC News. 17 กุมภาพันธ์ 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 17 February 2014. สืบค้นเมื่อ 17 February 2014.
- ↑ "Hijacker arrested after Ethiopian Airlines flight forced to land in Geneva". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 17 February 2014.
- ↑ Larry Register, Co-pilot hijacks Ethiopian Airlines plane, flies to Geneva, seeks asylum, CNN (18 February 2014).
- ↑ Emine Saner. "The Swiss air force: armed and dangerous, but only in office hours". The Guardian.
- ↑ 10.0 10.1 "Swiss Airforce Grounded During Hijacking Because It Was Outside Office Hours". Agence France-Presse. 17 February 2014.
- ↑ Swiss confirm Ethiopian plane hijack เก็บถาวร 2014-02-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, BBC News, 17 February 2014 Last updated at 01:44 ET.
- ↑ 12.0 12.1 Caroline Bishop, 'Paranoid' hijack pilot faces no Swiss charges, The Local (13 November 2015).
- ↑ "Ethiopian pilot who hijacked plane sentenced to 20 years in jail". Reuters. 20 March 2015.
- ↑ "Businessjet ohne Funk löste «Hot Mission» aus" (ภาษาเยอรมัน). 20 Minutes. 24 April 2017. สืบค้นเมื่อ 2 May 2020.
- ↑ Praesentation Aufbau Luftpolizeidienst 24h
- ↑ http://www.20min.ch/schweiz/news/story/Kampfjets-fliegen-naechstes-Jahr-bis-18-Uhr-20057467
- ↑ "—". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-02. สืบค้นเมื่อ 2021-12-31.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ Luftpolizeidienst jetzt rund um die Uhr