โดโรเธียแห่งบรันเดินบวร์ค
โดโรเธียแห่งบรันเดินบวร์ค | |||||
---|---|---|---|---|---|
สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก, สวีเดนและนอร์เวย์ | |||||
พระบรมสาทิสลักษณ์ร่วมสมัยของสมเด็จพระราชินีโดโรเธียในปราสาทเฟรเดอริคส์บอร์ก, ฮิลลีรืด | |||||
สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก | |||||
ครองราชย์ | 26 กันยายน ค.ศ. 1446– 5 มกราคม ค.ศ. 1448 28 ตุลาคม ค.ศ. 1449– 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1481 | ||||
ราชาภิเษก | 28 ตุลาคม ค.ศ. 1449 โบสถ์พระนางมารี, โคเปนเฮเกน | ||||
ก่อนหน้า | ฟิลิปปาแห่งอังกฤษ (ครั้งแรก) ว่าง (ครั้งที่สอง) | ||||
ถัดไป | ว่าง (ครั้งแรก) คริสตินาแห่งซัคเซิน (ครั้งที่สอง) | ||||
สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ | |||||
ครองราชย์ | 26 กันยายน ค.ศ. 1446– 5 มกราคม ค.ศ. 1448 13 พฤษภาคม ค.ศ. 1450– 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1481 | ||||
ราชาภิเษก | 2 สิงหาคม ค.ศ. 1450 มหาวิหารนิดารอส, ทร็อนไฮม์ | ||||
ก่อนหน้า | ฟิลิปปาแห่งอังกฤษ (ครั้งแรก) คาทารีนา คาร์ลสด็อทเทอร์ (ครั้งที่สอง) | ||||
ถัดไป | คาทารีนา คาร์ลสด็อทเทอร์ (ครั้งแรก) คริสตินาแห่งซัคเซิน (ครั้งที่สอง) | ||||
สมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน | |||||
ครองราชย์ | 26 กันยายน ค.ศ. 1446– 5 มกราคม ค.ศ. 1448 23 มิถุนายน ค.ศ. 1457– 23 มิถุนายน ค.ศ. 1464 | ||||
ราชาภิเษก | 29 มิถุนายน ค.ศ. 1457 อาสนวิหารอุปซอลา | ||||
ก่อนหน้า | ฟิลิปปาแห่งอังกฤษ (ครั้งแรก) คาทารีนา คาร์ลสด็อทเทอร์ (ครั้งที่สอง) | ||||
ถัดไป | คาทารีนา คาร์ลสด็อทเทอร์ (ครั้งแรก) คริสตินา อับราฮัมสด็อทเทอร์ (ครั้งที่สอง) | ||||
ประสูติ | ราว ค.ศ. 1430/1431 บรันเดินบวร์ค | ||||
สวรรคต | 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1495 (พระชนมายุราว 65 พรรษา) คาลุนด์บอร์ก, เดนมาร์ก | ||||
ฝังพระศพ | มหาวิหารรอสกิลด์ | ||||
คู่อภิเษก | พระเจ้าคริสตอฟเฟอร์ที่ 3 แห่งเดนมาร์ก (แต่ง 1445) พระเจ้าคริสเตียนที่ 1 แห่งเดนมาร์ก (แต่ง 1449) | ||||
พระราชบุตร | |||||
| |||||
ราชวงศ์ | โฮเอินท์ซ็อลเลิร์น(โดยประสูติ) พาราทิเนต-นอยมาร์ก (โดยเสกสมรส) อ็อลเดินบวร์ค (โดยเสกสมรส) | ||||
พระราชบิดา | โยฮัน มาร์คกราฟแห่งบรันเดินบวร์ค-คูล์มบาค | ||||
พระราชมารดา | บาร์บาราแห่งซัคเซิน-วิทเทนแบร์ก | ||||
ศาสนา | โรมันคาทอลิก |
โดโรเธียแห่งบรันเดินบวร์ค (ค.ศ. 1430/1431 - 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1495) ทรงเป็นเจ้าหญิงโฮเอินท์ซ็อลเลิร์น ซึ่งได้เป็นสมเด็จพระราชินีสแกนดิเนเวียภายใต้สหภาพคาลมาร์ คือ สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก, นอร์เวย์และสวีเดน จากการอภิเษกสมรสกับพระเจ้าคริสตอฟเฟอร์ที่ 3 แห่งเดนมาร์ก ในค.ศ. 1445 จนกระทั่งกษัตริย์คริสตอฟเฟอร์สวรรคต ค.ศ. 1448 และต่อมาทรงเป็นพระมเหสีในพระเจ้าคริสเตียนที่ 1 แห่งเดนมาร์ก พระนางทรงดำรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก ในค.ศ. 1449 และสมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ ในค.ศ. 1450 จนกระทั่งกษัตริย์คริสเตียนสวรรคตในค.ศ. 1481 และยังทรงเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน ตั้งแต่ค.ศ. 1457 - 1464 พระนางยังทรงดำรงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินเดนมาร์กในช่วงสมัยไร้กษัตริย์ในค.ศ. 1448 และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในช่วงพระราชสวามีองค์ที่สองเสด็จออกจากราชอาณาจักร[1] [2] [3] พระนางยังทรงเป็นพระราชชนนีในพระเจ้าฮันส์แห่งเดนมาร์ก และพระเจ้าเฟรเดอริกที่ 1 แห่งเดนมาร์ก[4][5]
ช่วงต้นพระชนม์ชีพ
โดโรเธียประสูติราว ค.ศ. 1430 หรือ ค.ศ. 1431 เป็นพระราชธิดาในโยฮัน มาร์คกราฟแห่งบรันเดินบวร์ค-คูล์มบาคกับบาร์บาราแห่งซัคเซิน-วิทเทนแบร์ก (1405 - 1465) พระนางทรงมีพระเชษฐภคินีสองพระองค์ ได้แก่ บาร์บารา (1423 - 1481) ผู้ซึ่งกลายเป็นมาร์เชอเนสแห่งมันตัว และเอลิซาเบธ (1425 - 1465) ผู้ซึ่งกลายเป็นดัชเชสแห่งพอเมอเรเนีย เมื่อมีพระชนมายุได้ 8 ชันษา ได้ประทับอยู่ที่ไบร็อยท์ ซึ่งพระบิดาของพระนางเป็นผู้ปกครองอยู่ ในค.ศ. 1443 คริสโตเฟอร์แห่งบาวาเรีย ได้รับเลือกให้เป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์ก, สวีเดนและนอร์เวย์ พระองค์ใหม่ ได้สืบทอดเขตโอเบิร์พฟัลทซ์ ซึ่งอยู่ใกล้ไบร็อยท์ และได้มีการแนะนำให้กษัตริย์คริสตอฟเฟอร์เสกสมรสกับโดโรเธีย เพื่อรับการสนับสนุนของพระบิดาของโดโรเธียต่อฐานอำนาจของกษัตริย์คริสตอฟเฟอร์ในดินแดนเยอรมัน[6] การหมั้นได้มีการประกาศก่อนสมัยการประทานของพระสันตะปาปาในเรื่องความสัมพันธ์ที่เป็นญาติกัน เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1445 ซึ่งได้รับการอนุมัติในวันที่ 10 มีนาคม
การอภิเษกสมรสกับคริสโตเฟอร์แห่งบาวาเรีย
ในวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1445 พระราชพิธีอภิเษกสมรสระหว่างกษัตริย์คริสตอฟเฟอร์และโดโรเธียจัดขึ้นในโคเปนเฮเกน ตามมาด้วยพิธีสวมมงกุฎให้พระราชินีโดโรเธีย กษัตริย์ทรงพระราชทานเงินทุนพร้อมภาษีพิเศษแก่ทั้งสามราชอาณาจักร จึงถูกมองว่าเป็นวาระโอกาสที่พิถีพิถันที่สุดประวัติศาสตร์นอร์ดิกสมัยกลาง[7] พิธีเฉลิมฉลองดำเนินไป 8 วัน และร่วมพิธีโดยเหล่าเจ้าชายผู้ปกครองนครเบราน์ชไวค์ เฮ็สเซินและบาวาเรีย และคณะทูตจากสันนิบาตฮันซา รวมถึงคณะอัศวินท็อยโทและเหล่าขุนนางเดนมาร์ก สวีเดนและนอร์เวย์ พระนางโดโรเธียเสด็จเข้าเมืองโดยมีขุนนางจากทั้งสามราชอาณาจักรสวมชุดปักสีทองขี่ม้าคอยคุ้มกัน และสวมมงกุฎเป็นสมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก สวีเดนและนอร์เวย์ โดยบาทหลวงของทั้งสามอาณาจักรที่อารามวัดสเตนา[8] ในวันที่ 15 กันยายน พระราชินีทรงได้รับสินสมรสศักดินาจากทั้งสามอาณาจักร ได้แก่ รอสคิลด์ ริงสเต็ด ฮารัลด์บอร์กและสกอยเดนเซของเดนมาร์ก แยมต์ลันด์ของนอร์เวย์ และเออเรบรู นาร์กและแวร์มลันด์ของสวีเดน[9] หากพระนางเลือกที่จะประทับนอกสแกนดิเนเวียในฐานะตกพุ่มหม้าย พระนางจะได้รับทรัพย์จำนวน 45,000 ไรน์กิลเดอร์ ซึ่งเป็นจำนวนหนึ่งในสามของแต่ละอาณาจักร[10]
สมเด็จพระราชินีโดโรเธียเสด็จออกจากสวีเดนพร้อมกษัตริย์ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1446 ทั้งสองพระองค์เสด็จเยือนอารามวัดสเตนา และที่ดินสินสมรสของพระนางที่เออเรบรู ในช่วงนี้พระนางทรงพระราชทานพระวโรกาสให้คาร์ล เจ้ากรมวังแห่งสวีเดนเข้าเฝ้า ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นศัตรูของพระนางในอนาคต ตามพงศาวดารคาร์ลสโคนนิคัน การพบปะครั้งนี้เป็นเรื่องดีและมีการถวายของกำนัลให้แก่พระนางและนางสนองพระโอษฐ์มากมาย ทั้งสองพระองค์เสด็จกลับเดนมาร์กในเดือนกันยายน การอภิเษกสมรสระหว่างพระนางโดโรเธียและกษัตริย์คริสตอฟเฟอร์เป็นเรื่องดีในทางการเมือง โดยพระบิดาของพระนางปกครองดินแดนเยอรมันของกษัตริย์คริสตอฟเฟอร์ และเป็นทั้งผู้สนับสนุนตลอดจนที่ปรึกษาผู้ภักดี[11] แต่ทั้งสองพระองค์ก็ไม่ทรงมีทายาท ตามบันทึกของอีริคัส โอไล ระบุว่าในความเป็นจริงแล้วการเสกสมรสครั้งนี้ไม่มีเรื่องของความสัมพันธ์ทางเพศเลย[12]
การอภิเษกสมรสกับกษัตริย์คริสเตียนที่ 1 แห่งเดนมาร์ก
สมเด็จพระพันปีหลวงโดโรเธียได้รับคำขอให้อภิเษกสมรสกับพระเจ้ากาชีมีแยชที่ 4 แห่งโปแลนด์และอัลเบร็ชท์ที่ 6 อาร์ชดยุกแห่งออสเตรีย แต่พระนางทรงเลือกที่จะประทับในเดนมาร์กต่อไป และอภิเษกสมรสกับกษัตริย์เดนมาร์กพระองค์ใหม่ที่ได้รับการเลือกตั้งคือ คริสเตียนแห่งอ็อลเดินบวร์ค หรือ กษัตริย์คริสเตียนที่ 1[13] พระราชพิธีอภิเษกสมรสจัดขึ้นในวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1449 ตามมาด้วยพระราชพิธีราชาภิเษกในฐานะกษัตริย์คริสเตียนและพระราชินีโดโรเธียแห่งเดนมาร์ก พระนางทรงสละสิทธิในการครอบครองที่ดินศักดินาจากการสมรสที่มีอยู่ในเดนมาร์กและนอร์เวย์ แทนที่ด้วยคาลุนด์บอร์กและแซมเซอในเดนมาร์ก และรอเมริเกในนอร์เวย์ แต่ทรงปฏิเสธที่จะสละที่ดินในสวีเดน[14] มีการเลือกตั้งให้คาร์ล คนุตสัน บอนเดอเป็นกษัตริย์สวีเดนและนอร์เวย์ ทำให้พระนางสูญเสียดินแดนในอาณาจักรเหล่านี้ และด้วยความทะเยอทะยานของพระนาง รวมถึงความทะเยอทะยานของกษัตริย์คริสเตียน ที่ต้องการให้กษัตริย์คริสเตียนสวมมงกุฎในสวีเดนและนอร์เวย์ และเพื่อรวมสหภาพคาลมาร์ที่แตกสลายให้รวมกันอีกครั้ง[15]
กษัตริย์คริสเตียนทรงสืบราชบัลลังก์ในนอร์เวย์เช่นกัน ค.ศ. 1450 แต่การเอาชนะสวีเดนนั้นทำได้ยากกว่า และสมเด็จพระราชินีโดโรเธียทรงยืนหยัดรณรงค์เป็นเวลาหลายปีในการสรรหาผู้สนับสนุนจากเหล่าบาทหลวงและขุนนางสวีเดน ซึ่งพระนางทรงกล่าวพาดพิงถึง กษัตริย์คาร์ลที่ 8 แห่งสวีเดน ทีได้รับเลือกเป็นกษัตริย์นั้น เป็นเพียงอดีตเจ้ากรมวังและข้าราชบริพารของพระนาง ดังนั้นจึงสมควรเรียกว่าเป็นผู้ช่วงชิงราชบัลลังก์และเป็นผู้ทรยศที่ฝ่าฝืนคำปฏิญาณโดยการปล้นสิทธิที่ดินมรดกสมรสในสวีเดนของพระนาง ซึ่งเป็นอดีตพระราชินี[16] ในค.ศ. 1455 พระนางทรงยื่นคำร้องไปถึงสมเด็จพระสันตะปาปา[17] ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1457 การรณรงค์ของพระนางประสบความสำเร็จ เมื่อเกิดการกบฏโดยอาร์ชบิชอป จอน เบ็งก์สัน อ็อกเซนสแทร์นา ได้โค่นบัลลังก์ของกษัตริย์คาร์ลที่ 8 ซึ่งลี้ภัยไปยังดินแดนเยอรมัน และในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1457 กษัตริย์คริสเตียนทรงได้รับเลือกเป็นพระมหากษัตริย์สวีเดน ด้วยเหตุนี้จึงสามารถรวมสามอาณาจักรนอร์ดิกเป็นหนึ่งเดียวได้อีกครั้ง[18] สมเด็จพระราชินีโดโรเธียเสด็จเข้าสตอกโฮล์มอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม และที่ดินมรดกสมรสของพระนางได้รับการฟื้นคืนแก่พระนาง ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1458 สภาสวีเดนได้อนุมัติตามพระราชประสงค์ของพระราชินีโดโรเธียและกษัตริย์คริสเตียนที่ว่าพระราชโอรสของทั้งสองพระองค์ จะได้สืบราชบัลลังก์สวีเดน เช่นเดียวกับราชบัลลังก์นอร์เวย์และเดนมาร์กที่ได้มีการรับประกันอย่างมั่นคงแล้ว[19] กษัตริย์และพระราชินีเสด็จกลับเดนมาร์กในเดือนกรกฎาคม
ใน ค.ศ. 1460 กษัตริย์คริสเตียนทรงซื้อดัชชีชเลสวิชและฮ็อลชไตน์ ซึ่งทำให้พระองค์มีหนี้สิ้น ทำให้ต้องทรงขึ้นภาษีและทำลายผู้สนับสนุนฝ่ายพระองค์ในสวีเดน พวกเขาเลือกกษัตริย์คาร์ลที่ 8 เป็นพระมหากษัตริย์อีกครั้งในค.ศ. 1464[20] การสูญเสียสวีเดนส่งผลกระทบต่อสมเด็จพระราชินีโดโรเธีย ที่ทรงรณรงค์มาตลอดพระชนม์ชีพเพื่อพระราชสวามี (และพระราชโอรสในรัชสมัยต่อมา) ในการได้รับราชบัลลังก์อีกครั้ง ส่งผลกระทบต่อสหภาพคาลมาร์แห่งสามราชอาณาจักรและการเรียกคืนดินแดนมรดกสมรสของพระนาง[21]
ในปีค.ศ. 1451 สงครามเกิดขึ้นระหว่างราชอาณาจักรเหนือพระราชมรดกของพระนาง พระนางทรงได้รับดินแดนนาร์เกและแวร์มลันด์ในปีค.ศ. 1457 แต่ทรงสูญเสียดินแดนเหล่านั้นในปีค.ศ. 1464 ในเรื่องนี้พระนางทรงขอความช่วยเหลือจากสมเด็จพระสันตะปาปาตั้งแต่ปีค.ศ. 1455 และพระนางประสบความสำเร็จในการขอปัพพาชนียกรรม ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแห่งสวีเดน สเตน สตูเร ผู้อาวุโส เกิดการหยุดชะงักในการเจรจาต่อรองทางการเมืองกับสวีเดนเป็นเวลาหลายปี และพระโอรสของพระนาง พระเจ้าจอห์นแห่งเดนมาร์ก ทรงกลายเป็นพระมหากษัตริย์แห่งสวีเดนในปีค.ศ. 1497 การบัพชานียกรรมได้ถูกบอกล้างอย่างรวดเร็วที่สุดเมื่อพระนางสิ้นพระชนม์ในปีค.ศ. 1495 พระนางยังทรงต่อสู้กับเฟรเดอริกที่ 2 อีเล็กเตอร์แห่งบรันเดินบวร์ค พระปิตุลาของพระนาง ในการแย่งชิงมรดกที่ถูกทิ้งไว้หลังจากที่จอห์น มาร์เกรฟแห่งบรันเดินบวร์ค-คลัมบาร์ช พระบิดาของพระนางสิ้นพระชนม์ในปีค.ศ. 1464
สมเด็จพระราชินีโดโรเธียทรงดำรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในระหว่างที่พระสวามีเสด็จออกนอกราชอาณาจักร พระนางทรงได้รับตำแหน่ง slotsloven ซึ่งหมายความว่าพระนางทรงมีสิทธิบัญชาการปราสาททั้งหมดในเดนมาร์ก พระนางทรงเป็นบุคคลทางการเมืองที่ทรงอำนาจเนื่องจากฐานะทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของพระนาง ซึ่งได้รับความเคารพทั้งจากพระสวามีและพระโอรสของพระนาง พระนางทรงได้รับแม้กระทั่งที่ดินของพระสวามีเมื่อพระนางทรงให้พระสวามียืมพระราชทรัพย์แต่พระองค์ไม่สามารถจ่ายคืนได้ ในปีค.ศ. 1460 พระสวามีของพระนางทรงได้รับฮ็อลชไตน์และดัชชีชเลสวิช แต่มีเงื่อนไขที่ว่าพระองค์สามารถจ่ายให้แก่เจ้าหนี้ของพระองค์ได้ สมเด้จพระราชินีโดโรเธียทรงจ่ายตามคำขอของพระเจ้าคริสเตียน และทำให้พระองค์สามารถทำให้ดินแดนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์กได้ พระนางทรงมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในฮ็อลชไตน์และชเลสวิช และโดยในปีค.ศ. 1470 พระนางทรงเป็นพระประมุขโดยพฤตินัยเหนือดินแดนเหล่านี้ ในปีค.ศ. 1479 พระนางทรงได้รับฮ็อลชไตน์และในปีค.ศ. 1480 ทรงได้รับชเลสวิชจากพระสวามีเพื่อเป็นหลักค้ำประกันของพระองค์ในการยืมเงินเมื่อไม่สามารถจ่ายคืนได้ และในช่วงที่พระสวามีสวรรคต พระนางทรงปกครองเหนือดัชชีในฐานะดินแดนของพระนางเอง พระโอรสองค์โตของพระนาง พระเจ้าจอห์นไม่ทรงเห็นด้วยที่พระนางจะทรงมอบชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ให้แก่พระโอรสองค์สุดท้องคือ เจ้าชายเฟรเดอริก ความขัดแย้งนี้ก็ไม่ได้รับการแก้ไขจนกระทั่งค.ศ. 1487 เมื่อพระนางทรงแบ่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์ให้กับพระโอรสทั้งสอง
ในปีค.ศ. 1475 และค.ศ. 1488 สมเด็จพระพันปีหลวงโดโรเธียได้เสด็จไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา (สมเด็จพระสันตะปาปาซิกซ์ตุสที่ 4และสมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 8)ที่กรุงโรม และเสด็จไปพบพระเชษฐภคินี พระนางบาร์บาราที่แมนชัว ในปีค.ศ. 1488 พระนางยังเสด็จไปพบกับจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่อินส์บรุค พระนางทรงได้รับการบรรยายว่าทรงมีพระบุคลิก เยือกเย็น ลงมือกระทำจริงและประหยัด เมื่อทรงตกพุ่มหม้าย พระนางทรงมีที่ประทับหลักคือปราสาทคาลุนด์บอร์ก สมเด็จพระพันปีหลวงโดโรเธียเสด็จสวรรคตในวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1495 และพระศพถูกฝังเคียงข้างพระราชสวามีที่มหาวิหารรอสคิลด์
พระโอรส-ธิดา
พระราชินีโดโรเธียกับพระเจ้าคริสเตียนที่ 1 ทรงมีพระโอรส-ธิดาทั้งหมด 5 พระองค์ ได้แก่
ดูเพิ่ม
- รายพระนามคู่อภิเษกสมรสในพระมหากษัตริย์เดนมาร์ก
- รายพระนามคู่อภิเษกสมรสในพระมหากษัตริย์สวีเดน
- รายพระนามคู่อภิเษกสมรสในพระมหากษัตริย์นอร์เวย์
อ้างอิง
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Terje Bratberg (2014-09-28). "Christoffer Av Bayern". Norsk biografisk leksikon. สืบค้นเมื่อ June 1, 2018.
- ↑ Esben Albrectsen (2016-05-03). "Christian 1". Norsk biografisk leksikon. สืบค้นเมื่อ June 1, 2018.
- ↑ Eldbjørg Haug (2014-09-28). "Hans". Norsk biografisk leksikon. สืบค้นเมื่อ June 1, 2018.
- ↑ Øystein Rian (2014-09-28). "Frederik 1". Norsk biografisk leksikon. สืบค้นเมื่อ June 1, 2018.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dansk kvindebiografisk leksikon
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- ↑ Dorotea, urn:sbl:17601, Svenskt biografiskt lexikon (art av Gottfrid Carlsson.), hämtad 2016-09-07.
- โดโรเธียแห่งบรันเดินบวร์ค ที่ไฟน์อะเกรฟ
- Åke Ohlmarks: Alla Sveriges drottningar (All the queens of Sweden) (Swedish)
- Herman Lindvist: Historien om alla Sveriges drottningar (History of all the queens of Sweden) (Swedish) (2006)
- http://www.kvinfo.dk/side/597/bio/498/origin/170/ (in Danish)
ดูเพิ่ม
- Anne J. Duggan: Queens and queenship in medieval Europe
ก่อนหน้า | โดโรเธียแห่งบรันเดินบวร์ค | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
เจ้าหญิงฟิลิปปาแห่งอังกฤษ | สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก ครั้งที่ 1 (ราชวงศ์พาราทิเนต-เนามาร์ทก์) (12 กันยายน ค.ศ. 1445 – 6 มกราคม ค.ศ. 1448) |
ว่าง | ||
สมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ ครั้งที่ 1 (ราชวงศ์พาราทิเนต-เนามาร์ทก์) (12 กันยายน ค.ศ. 1445 – 6 มกราคม ค.ศ. 1448) |
คาทารีนา คาร์ลสด็อทเทอร์ | |||
ว่าง | สมเด็จพระราชินีแห่งเดนมาร์ก ครั้งที่ 2 (ราชวงศ์โอลเดนบวร์ก) (28 ตุลาคม ค.ศ. 1449 – 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1481) |
คริสตินาแห่งซัคเซิน | ||
คาทารีนา คาร์ลสด็อทเทอร์ | สมเด็จพระราชินีแห่งนอร์เวย์ ครั้งที่ 2 (ราชวงศ์โอลเดนบวร์ก) (28 ตุลาคม ค.ศ. 1449 – 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1481)
| |||
สมเด็จพระราชินีแห่งสวีเดน ครั้งที่ 2 (ราชวงศ์โอลเดนบวร์ก) (23 มิถุนายน ค.ศ. 1457 – 23 มิถุนายน ค.ศ. 1464) |
คริสตินา อับราฮัมสด็อทเทอร์ |